กฏหมายต้องรู้เมื่อซื้อบ้าน V.1 ตรวจบ้าน/คอนโดแล้วโครงการไม่แก้ไขข้อบกพร่อง ผู้ซื้อสามารถเรียกเงินมัดจำคืนได้หรือไม่
การซื้อบ้าน/คอนโดนั้น ผู้ซื้อย่อมคาดหวังที่จะได้บ้าน/คอนโดที่มีสภาพดีที่สุด เหมาะสมกับจำนวนเงินที่ผู้ซื้อต้องจ่ายออกไป ดังนั้นเพื่อเป็นการสนองตอบความต้องการนี้ โครงการมักมีการเรียกผู้ซื้อไปตรวจสภาพบ้าน/คอนโดที่ผู้ซื้อต้องการจะซื้อ ก่อนที่จะดำเนินการทำสัญญาซื้อขาย และโดยส่วนมากโครงการมักจะให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำก่อนที่จะเข้าตรวจบ้าน/คอนโด
ในการตรวจบ้าน/คอนโดนั้น โครงการมักจะให้ผู้ซื้อตรวจบ้าน/คอนโดได้สองครั้งด้วยกัน โดยแบ่งเป็นการตรวจรอบแรกเพื่อหาจุดบกพร่องในตัวบ้าน/คอนโด และการตรวจรอบสองหลังจากที่โครงการได้ดำเนินการแก้ไขจุดบกพร่องตามที่ผู้ซื้อต้องการ ซึ่งในการตรวจรอบสองนี้แหละครับ ที่มักจะเกิดปัญหาเนื่องจากในบางครั้งโครงการไม่ได้ดำเนินการแก้ไขจุดบกพร่อง หรือดำเนินการแก้ไขไม่ครบตามที่ผู้ซื้อต้องการ โดยมักอ้างว่างบ้านมีประกันหากจุดบกพร่องไหนผู้ซื้อไม่พอใจก็สามารถเรียกโครงการเข้ามาแก้ไขได้ในภายหลัง และเร่งรัดให้ผู้ซื้อทำสัญญาซื้อขายบ้าน/คอนโดกับโครงการ และแจ้งผู้ซื้อว่าหากไม่ทำสัญญาซื้อขายบ้าน/คอนโดโครงการจะทำการยึดเงินมัดจำที่ผู้ซื้อวางไว้
เงินมัดจำตามกรณีนี้เป็นการที่ผู้ซื้อในฐานะผู้วางเงินมัดจำตกลงที่จะซื้อบ้าน/คอนโดที่ได้มาตรฐานการก่อสร้างตามที่ผู้ซื้อต้องการ และโครงการในฐานะผู้รับเงินมัดจำก็มีหน้าที่จัดเตรียมบ้าน/คอนโดให้ได้มาตรฐานตามที่ผู้ซื้อต้องการดุจกัน ดังนั้นเมื่อผู้ซื้อได้เข้าตรวจบ้าน/คอนโดรอบแรกและชี้แจงจุดบกพร่องให้โครงการทราบเพื่อดำเนินการแก้ไข แต่โครงการกลับละเลยมิดำเนินการแก้ไขจุดบกพร่อง หรือแก้ไขไม่ครบตามที่ผู้ซื้อต้องการ ผู้ซื้อจะเรียกเงินมัดจำคืนจากโครงการได้เนื่องจากถือได้ว่าโครงการในฐานะผู้รับเงินมัดจำละเลยไม่ชำระหนี้ ทั้งนี้ตามประมวลแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 378 “มัดจำ นั้น ถ้ามิได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ท่านให้เป็นไป ดังจะกล่าว ต่อไปนี้ คือ ให้ส่งคืน หรือจัดเอาเป็นการใช้เงินบางส่วนในเมื่อชำระหนี้ ให้ริบ ถ้า ฝ่ายที่วางมัดจำ ละเลยไม่ชำระหนี้ หรือ การชำระหนี้ ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะพฤติการณ์ อันใดอันหนึ่ง ซึ่ง ฝ่ายนั้นต้องรับผิดชอบ หรือ ถ้ามีการเลิกสัญญา เพราะ ความผิดของฝ่ายนั้น ให้ส่งคืน ถ้าฝ่ายที่รับมัดจำ ละเลยไม่ชำระหนี้ หรือ การชำระหนี้ ตกเป็นพ้นวิสัย เพราะพฤติการณ์ อันใดอันหนึ่งซึ่งฝ่ายนี้ต้องรับผิดชอบ”