1. เจรจากับการทางโครงการให้
เจ้าของบ้านหลายๆ ท่านอาจหนักอกหนักใจ ที่จะต้องนำปัญหาหรือ Defect ที่พบจากรายงานตรวจรับบ้านไปคุยกับทางโครงการเอง เนื่องจากไม่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ บางครั้งก็ไม่สามารถโต้แย้งกับทางโครงการได้ แต่การตรวจรับบ้านของ Keyhomechecker นั้น ทางโครงการสามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยได้ ซึ่งทางผู้ตรวจจะอธิบายถึงรายละเอียดของปัญหาที่พบ วิธีการแก้ไข รวมถึงทางเลือกในการแก้ไข เปรียบเสมือนเป็นตัวกลางระหว่างโครงการและเจ้าของบ้าน
2. ใช้เครื่องมือที่น่าเชื่อถือ
ทีมตรวจของ Keyhomechecker จะใช้เครื่องมือที่วัดค่าได้ในการตรวจ เพื่อให้สามารถวัดผลได้ถูกต้องแม่นยำ มากกว่าการสังเกตด้วยสายตาหรือประการณ์ของผู้ตรวจเพียงอย่างเดียว เช่น Drone /Levelling Laser /ระดับน้ำ/เครื่องเทสน้ำ เป็นต้น
3. ใส่ใจตรวจให้มากกว่า Defect
ซึ่งนอกจากการตรวจ Defect แล้ว ทีมตรวจของ Keyhomechecker จะยังรายงานถึงปัญหาในการใช้งานของบ้านและคอนโดในเชิง Function อีกด้วย เพื่อประเมินทางเลือก พร้อมบอกระยะเวลาการแก้ปัญหา เพราะหากปัญหาดังกล่าวที่พบจากการตรวจบ้านไม่ได้รับการแก้ไขก่อนโอน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นภายหลัง ทั้งในสัญญา และโดยเฉพาะที่หมดสัญญา จะตกเป็นภาระกับเจ้าของบ้าน
4. สรุปผลการตรวจให้ทันที
หลังจากตรวจเสร็จ ทางทีมผู้ตรวจจะส่งรายงานให้กับเจ้าของบ้าน ทีมวิศวกร และผู้รับเหมาของโครงการได้ทันที ซึ่งทางโครงการสามารถแก้ไขให้ได้ตั้งแต่ตอนนั้นเลย จึงช่วยลดระยะเวลาในการแก้ไขเมื่อเทียบกับการจ้างบริษัทตรวจรับบ้านอื่นๆ ที่ต้องใช้เวลาในการทำ Report หลังการตรวจ
5. มีระบบการตรวจซ้ำ
เรามีบริการตรวจซ้ำรอบ 2 เพื่อให้เจ้าของบ้านมั่นใจได้ว่า Defect และปัญหาทุกจุดจากการตรวจครั้งแรกได้ถูกจัดการและแก้ไขอย่างถูกต้องเรียบร้อยแล้ว